จิตใต้สำนึกกับโหราศาสตร์ยูเรเนียน

·        เราสามารถสั่งสารเคมีในร่างกายเราได้เอง ทุกครั้งที่เราเครียด เราหงุดหงิด สารเคมีในสมองเราจะตก

·        ขณะที่เราคิดแต่ภาพดีๆ  เราสร้างความสุขในตัวเองได้ เราควบคุมมันได้

·        อะไรที่มันสุขไม่ค่อยอยากจะไปคิด  เรื่องเศร้าชอบกระโดดเข้าไปคิดติดกับมัน

·        การทำตัวซึมเศร้า น่าสมเพช เราได้อะไรจากการนั้น ต้องออกจากพื้นที่ที่เราเคยชิน

·        สิ่งที่ยากสำหรับเราคือ  การเอาคนออกจากคุกขังความคิด

·        อะไรที่คนเราทำแล้วไม่เวิร์ค ก็ยังจะทำมันต่อไปอีก ฉะนั้นต้องเปลี่ยนสิ่งที่อยู่ในหัวของเราใหม่

·        เราเป็นคนส่งสัญญาณไม่ดีออกไปเอง คนอื่นถึงมาทำกับเราแบบนั้น

·        คนที่เขามาแรงกับเรา ความจริงข้างในเขารู้สึกไม่ปลอดภัย

·        ทันทีที่เกิดความทุกข์ หรือทันทีที่คิดลบ สมองจะส่งสัญญาณไม่ดีไปยังร่างกาย  เช่นเพื่อนทิ้ง แฟนทิ้ง

·        ถ้าเราคิดลบบ่อยๆ ปลายประสาทในสมอง เคยเดินอย่างไร มันมักจะคุ้นเคยแบบเดิมๆเหมือนจำทางได้

·        ถ้าเราเลิกคิดลบ ปลายประสาทด้านนี้มันจะเหี่ยวลงทันที มันจะไม่ไปยังร่องน้ำเดิม

·        ถ้าร่างกายได้รับสิ่งดีๆจากสมองสั่งมา มันก็จะเกิดลูปที่ดีๆเป็นวงจร

·        แต่ทันทีที่เราเปลี่ยน แค่เสี้ยวเวลาสายฟ้าฟาด สามารถเปลี่ยนชีวิต เราต้องสร้างพลัง ไล่พลังด้านบวกออกมา

·        ทำไมคนเราเจอแต่เรื่องไม่ดีซ้ำๆ เพราะเราล่อเป้าตัวเอง

·        คนเราชอบมองเห็นจุดอ่อนในตัวเองได้ตลอดเวลา จะมองแต่ด้านลบด้านที่ตนเองขาดเสมอ

·        แผลในใจตัวเองต้องยอมรับกับมันก่อน คนทั่วไปไม่ยอมรับว่าตนเองมีแผลในใจ

·        มนุษย์เรามักคิดว่าตัวเองทำผิด เวลาเกิดอะไรนั้น

·        เงินเหมือนเลือดที่หล่อเลี้ยงร่างกาย ใครที่ทำงานแล้วไม่ได้เงิน เหมือนไม่มีเลือดไปหล่อเลี้ยงร่างกาย

·        จิตใต้สำนึกทำงานอยู่เสมอแม้เวลาเราหลับ  หนาวดึงผ้ามาห่ม มาตบยุง ทำไมไม่ตกเตียงทั้งๆที่เตียงก็กว้าง

·        อะไรที่เราเชื่อว่าเราทำมันได้ดี  เราก็จะทำสิ่งนั้นออกมาได้ดี

·        อะไรที่เราเชื่อว่าเราทำมันไม่ได้ไม่ดี ผลของความเชื่อก็จะทำให้ทำแล้วล้มเหลว หรือเป็นหนี้

·        คนที่เชื่อว่า ความรักจริงๆไม่มี เมื่อไม่เชื่อ และพอเจอคนที่คิดว่าใช่ พอไม่สมหวัง ก็จะฝังลึกลงไปว่านี่ไงความรักจริงๆไม่มี

·        อะไรที่เรามองหา เราก็จะเห็นสิ่งนั้น  เช่นวันที่เราซื้อกระเป๋าหลุยส์มา วันนั้นเราก็จะเจอแต่คนถือกระเป๋าหลุยส์แบบนั้นเหมือนเรา

·        คนเราทะเลาะกันเพราะความเข้าใจผิดเรื่องเงิน ไม่ใช่เงิน ทำให้เราทะเลาะกัน

·        จงอย่าอยู่ในที่เดิมๆ หรือคนเดิมๆทั้งที่รู้อยู่ว่ามันห่วย

·        จงอย่าตัดสินคนๆหนึ่งจากจำนวนเงินที่เขาประสบความสำเร็จ  และอย่าตัดสินด้วยที่เขาไม่ได้ประสบความสำเร็จทางด้านการเงิน

·        ถ้าเราตาบอดกับความรักของพ่อแม่ เราจะตาบอดกับชีวิต

·       

·        เมื่อใดที่เราอยู่ในพื้นที่ๆเรารักเราชอบ เราจะทำได้ดี

·        กลับไปให้อภัยพ่อแม่ก่อน เมื่อความรักเกิดได้เราจะเริ่มทำอะไรได้ดี

·        ถ้าคุณทำดี ทำถูก คุณต้องได้ตังค์ เพื่อที่จะแก้ข้อที่ว่าของดีไม่ได้ตังค์  โธ่..เพราะทำไม่เป็นต่างหากที่ไม่ได้ตังค์ เราต้องข้ามความเชื่อผิดๆนั้น

·        ไอเดียที่คุณได้มานั้น ส่วนมากเกิดขึ้นตอนไหน ? ตอนประชุมที่ไหนเล่า ส่วนมากตอนอาบน้ำ นั่งห้องน้ำสบายๆ

·        ต้องมี GOAL หรือเป้าหมายตนเองก่อน การที่ไปอยู่บนความคิดคนอื่น มันไม่ท้าทาย

·        7อย่างที่เราต้องการเห็นว่ามันเป็นอย่างไรคือ บ้าน งาน ครอบครัว สุขภาพ จิตวิญญาณ การแบ่งปัน และการท่องเที่ยว

·        อะไรที่คนอื่นตั้งคำถามว่า ไม่ได้หรอก ไม่ดีหรอก ไม่สำเร็จหรอก ถามเขาว่า ใครบอกล่ะ ทำเป็นหรือเปล่า เคยทำมาแล้วหรือ ?

·        อย่าออกจากงาน โดยเป็นผู้แพ้ looser จงทำตัวเองให้ดีก่อน เป็นตัวอย่างที่ดีของคนอื่นก่อน ประสบความสำเร็จก่อน

·        เวลาที่ใจของเราจดจ่ออยู่กับเป้าหมาย วิธีการต่างๆจะผุดขึ้นมาให้เราเห็นเอง

·        คนที่โง่แล้วขยัน ฮิตเล่อร์อดีตผู้นำนาซีสมัยก่อนสั่งให้ฆ่าทิ้งทันที  เพราะมันอันตรายกว่าฉลาดแล้วขี้เกียจ  ฉะนั้นคนที่ขยันแต่โง่ให้ไล่ออกทันที คนพวกนี้อันตราย แต่คนขี้เกียจแต่ฉลาด คนพวกนี้เหมาะที่จะเป็นดาวเด่น ยังเก็บไว้ได้

·        ขยันนั้นดีอยู่แล้ว  ทำงานหนักนั้นแปลว่าขยันแน่นอน  แต่ทำงานหนักนั้นแปลว่าฉลาดหรือเปล่าล่ะ?  เพราะคนรวยและคนฉลาดส่วนใหญ่ทำงานไม่หนักพร่ำเพรื่อ  แต่เขาโฟกัสชัดเจน ตรงจุด ตรงประเด็น ทำน้อยได้ผลมาก

·        เรามาที่นี่ไม่ได้มาคลายปมให้คนอื่น แต่มาเพื่อทำชีวิตของเขาให้ดีขึ้น เปลี่ยนชีวิตของเขาให้ดีขึ้น

·        สำคัญและไม่ด่วน  คือ สุขภาพ  การให้เวลากับตัวเอง  การฝึกสมองตัวเอง รับคมมีดชีวิต

·        สำคัญและด่วน คือ สามีเลิก แฟนทิ้ง การเงินวิกฤติ

·        ไม่สำคัญแต่ด่วน  คือ รับโทรศัพท์หรือการประชุมแบบไร้สาระ

·        ไม่สำคัญและไม่ด่วน คือ เล่นเฟสบุ๊ค แชทคุยกับเพื่อน เล่นเกมส์

·        คนเราเดินไปในชีวิตแบมีวัตถุประสงค์ เป้าหมายต้องชัดเจนก่อน

·        เราต้องมี passion ของตนเองเพื่อที่จะได้มุ่งไปสู่จุดนี้

·        เราต้องอยู่ได้ด้วยตัวของเราเองก่อน  ความรู้สึกเดิมๆคือคุกที่ขังเราไว้อย่างสมบูรณ์แบบ อยู่กับ safety zone

·        คนที่ชอบนินทาผู้อื่น แสดงว่าคนๆนั้นมีปัญหาของตนเองที่ยังไม่ได้สะสาง จึงไปพูดว่าในเรื่องของคนอื่น

·        คนดีๆเขาไม่มานั่งนินทาคนอื่นหรอก เอาเวลานั้นมาจัดการชีวิตของตนเองให้ดียอดเยี่ยมดีกว่า

·        อย่าเอาใจของเราไปรองรับการกระทำที่ไม่ดีของคนอื่น จงทำให้ตนเองเห็นคุณค่าในตัวเองก่อน

·        การขอจากจักรวาลแบบใน The secret ต้องถูกต้องตรงกันด้วยระหว่างจิตสำนึก 5% กับจิตใต้สำนึกซึ่งมีอยู่ถึง 95%

·        มิเช่นนั้นคนก็คงขอเงิน ขอทอง ขอสร้อย ขอหวย ขอบ้านกันได้หมดแล้วซิ ทั้งนี้เพราะว่าจิตใต้สำนึกมันไม่ตรงกับจิตสำนึก

·        การยิ้ม สมองจะส่งสัญญาณที่ดี สารเคมีตัวที่ดีจะหลั่ง

·        วันที่ได้เงินกู้ยังฉลองว่าได้เงินกู้ผ่านแล้ว  แล้วทำไมเวลานี้มีหนี้ถึงทุกข์ล่ะ ?

·        มีความเชื่ออะไรบางอย่างหรือไม่ ที่มาจำกัดชีวิตเราไว้

·        การให้อภัยตนเอง มีบางสิ่งที่เรายอมให้คนอื่น เข้ามาลดคุณค่าในตัวเรา

·        ที่ตัวเราเองอนุญาตให้คนไม่ดี เอาเปรียบ รุกราน ไม่เห็นคุณค่า

·        ให้ขอโทษตัวเราที่ยอมให้เกิดเรื่องแบบนี้   นั่นคือการให้อภัยตนเอง

·        ให้นึกถึงคนที่ดีๆที่เข้ามา ดีกับเรา  แต่เราไม่ได้ดูแลเขาหรือไม่เห็นคุณค่าในตัวเขา หรือทำให้เขาเสียใจ

·        บอกตัวเอง ขอโทษตัวเอง ที่ความเชื่อที่ผิดทำให้เราพลาดโอกาสดีๆในชีวิต....ตอนไหน...ช่วงไหน.....

·        แล้วต่อจากนี้ไปเราจะไม่ทำอีก ชื่นชมสิ่งที่เขาทำดีไว้กับเรา แม้ว่าบัดนี้เขาอาจจะยังอยู่หรืออาจจะออกไปจากชีวิตของเราไปแล้ว

·        ถ้าเราเป็นคนดี เราก็จะได้เจอกับคนที่ดีๆ  อย่าให้คนห่วยๆเข้ามาในชีวิต

·        เมื่อเราพบคนดีๆเราจะเห็นความแตกต่างอย่างชัดเจน สุดท้ายแล้วเราก็เลือกได้ว่า ถ้าชีวิตของเราทำเต็มที่ ดีที่สุดแล้ว แต่คนข้างๆยังห่วยเสมอต้นเสมอปลาย มันจะมีสถานการณ์มาให้เราได้ตัดสินใจเรื่อยๆ จนกว่าจะเห็นว่าเรานี่แหละ ที่เอาตัวเองไปวางไว้ผิดจุด

·        คนรักที่เดินออกไปจากเราในวันนี้  เป็นโอกาสอันดีที่จะได้รู้ลึกๆว่า จริงแล้วเขาคิดอย่างไรกับเรากันแน่ ไม่ต้องเสียเวลาพิสูจน์

·        หากคบกันต่อไปอาจจะเสียใจมากกว่านี้ก็ได้ เอาเวลาที่เหลือดูแลตัวเองให้ดี มีชีวิตที่มีความสุขสมบูรณ์จากตัวเองก่อน ทิ้งบางคนในอดีตที่ไม่มีประโยชน์ออกจากชีวิต เพื่อจัดสรรพื้นที่สำหรับคนดีที่จะเข้ามาและคู่ควรกับเราเมื่อถึงเวลาอันควร

·        ไม่ต้องไปพยายามเปลี่ยนแปลงใคร เพราะเขาไม่เปลี่ยนแปลงจากการที่คนอื่นบอกให้เปลี่ยนหรอก เหลือแค่เราที่จะตัดสินใจเอาตัวเองไปวางไว้ที่คู่ที่ควรให้ชีวิตได้มีรอยยิ้มและมีความสุข เหมาะสมกับสิ่งที่เราเป็นสักที

·        ความต้องการของใครมีมากกว่าคนนั้น “แพ้” ต้องทำให้รู้สึกว่าไม่ทำก็ได้ เรายังมีอย่างอื่นทำอยู่ ไม่ได้ก็ไม่เดือดร้อนอะไรเท่าไหร่

·        เวลาคนอื่นเขาจะทำลายเรา   1.เขาจะตัดเส้นทางทำมาหากินของเรา  2.ทำให้เราไม่มั่นใจในตัวเอง  3.ทำให้คนอื่นมองเราไม่ดี

·        กายส่วนกาย ใจส่วนใจ  แยกตัวเองออกมาดู ถอยออกมาพิจารณาดู

·        คนเราเปลี่ยนตัวเองไม่ได้ มันมี STEP ของมัน ไม่ใช่แค่บอกว่าจะเปลี่ยนๆแล้วเปลี่ยนได้

·        ต้องลบข้อมูลบางเรื่องออกไป แล้วบิดเบือนข้อมูลบางอย่างเพื่อให้มันเข้ากับวิถีชีวิตของเรา

·        แม่ทัพนั้น คือบอกขวาคือขวา ซ้ายคือซ้าย เพื่อเคลื่อนคนในองค์กร ให้เขาเห็นไปเหมือนๆกัน

·        ภายใต้คำพูดที่เสียดแทงเรานั้น อาจจะจากพ่อแม่หรือคนรักเรานั้น บางทีมันอาจซ่อนความรักความห่วงใยของคนๆหนึ่งไว้ ซึ่งบางทีเขาอยากจะบอกอะไรกับเราตรงๆไม่ได้

·        เวลาที่คนอื่นพูดไม่ดี แสดงว่าคนๆนั้นมีปัญหาบางอย่างของตนเองที่ยังไม่ได้สะสาง จึงไปพูดว่าเรื่องของคนอื่น  คนดีๆเขาไม่มานั่งนินทาเรื่องของคนอื่นหรอก  เอาเวลานั้นมาจัดการกับชีวิตของตนเองให้ดียอดเยี่ยมดีกว่า

·        คำว่า เนื้อคู่ นั้นหมายถึง คนที่จะมาเป็นสามีภรรยากันในชาติปัจจุบันและ ต้องพึงพอใจในกามราคะ ถึงจะอยู่ร่วมกันได้

·        ขอย้ำไว้อีกครั้งว่า  การที่คนสองคนที่มาเป็นผัวเมียกันได้ในชาตินี้หรือเป็นเนื้อคู่กันนั้น ต้องมีเรื่องของกามราคะเป็นตัวเหนี่ยวนำเข้ามาหากัน และกรรมได้ลิขิตเท่านั้น

·         การที่เราดึงดูดคนไม่ดีเข้ามาในชีวิต เพราะในส่วนลึกในจิตใต้สำนึกเก็บความเชื่อว่าตัวเองไม่มีคุณค่าพอ ชีวิตจึงเลือกเดินไปตามความเชื่อ เลือกรัก เลือกมองแต่คนที่ทำร้ายตัวเอง

·        เจ้านายบางประเภท มีหลุมข้างในใจเพราะเคยทำผิดพลาดครั้งใหญ่มาก่อน จนในส่วนลึกในจิตใต้สำนึกรู้สึกกลัวพลาดไม่มั่นใจในตัวเอง จึงต้องแสดงออกโดยมีเกราะหนา พฤติกรรมแข็งกร้าว เลือกคนที่มีแต่คำชื่นชมลอยๆ ข้างในกลวงๆมาอยู่ใกล้ตัว เพื่อให้ตัวเองรู้สึกมั่นใจว่ายังเก่งอยู่ รูปแบบเช่นนี้ทำให้เจ้านายคนนั้นคิดอะไรก็ผิด ไม่ประสบสำเร็จ ทำงานก็ยิ่งดิ่งลง มีชีวิตปัจจุบันที่เจ็บปวดเพราะเอาความล้มเหลวในปัจจุบันไปเปรียบเทียบกับ อดีตที่เคยประสบความสำเร็จอยู่เสมอ .....

·        เหตุผลที่เราต้องลงมือทำสิ่งที่อยู่ตรงหน้าอย่างเต็มที่ ที่สุด เพราะ ในขณะที่เราลงมืออย่างเต็มที่ จิตใต้สำนึกจะรับรู้ถึงความรู้สึก ศรัทธา นับถือตัวเอง สมองจะเรียนรู้ในสิ่งที่เราทำเกิดเป็นความชำนาญในงาน เมื่อชีวิตประกอบด้วย ความชำนาญในงานและความศรัทธาในตัวเอง ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับเราชีวิตจะเปล่งแสงอยู่เสมอ

·        เวลาที่เราอ่อนแอ...เรามักต้องการใครสักคน หรืออะไรสักอย่างในชีวิตเพื่อช่วยให้เราเข้มแข็งขึ้น หลายคนตัดสินใจเลือกคนรัก เลือกงาน ในภาวะที่ใจท้อแท้อ่อนแอ เพราะคิดว่าเขาช่วยเราดีกับเรา เขาคือคนที่ควรฝากชีวิตไว้

·        สิ่งที่ต้องระวังคือ เวลาที่เราอยู่ในภาวะ อ่อนแอ กรอบการมองโลกของเราจะผิดเพี้ยน จิตใต้สำนึกมักดึงดูดคนที่อ่อนแอเข้ามาเช่นกัน ด้วยเหตุนี้เมื่อเวลาผ่านไปใจเราเข้มแข็งขึ้น จึงสามารถเห็นในมุมมองที่ชัดเจนว่าคนที่เราเลือกเป็นคนอ่อนแอ และไปด้วยกันไม่ได้ในที่สุด

·        เมื่อไหร่ที่คนๆหนึ่งไม่ได้อยู่กับตัวเอง มุ่งเอาความสนใจไปไว้ที่สิ่งภายนอก พูดเรื่องแย่ๆของคนอื่น เอาตัวเองไปจัดการปัญหาให้คนอื่น สร้างเปลือกให้คนอื่นเห็นว่าเป็นคนชอบช่วยเหลือคนอื่น แต่กลับมาบ้านอยู่ลำพังคนเดียวไม่ได้ เป็นพฤติกรรมอัตโนมัติที่ จิตใต้สำนึกของคนๆนั้น หลีกเลี่ยงที่จะคิดเรื่องปัญหาของตัวเอง ที่มีอยู่เยอะและเจ็บปวดเกินกว่าที่จะเผชิญหน้ากับเรื่องของตัวเอง...นาที ที่เราตัดสินใจใช้ความกล้าหาญเผชิญหน้ากับตัวเอง บอกตัวเองว่าพอกันทีกับชีวิตห่วยๆ .... เมื่อนั้นชีวิตคุณเปลี่ยนทันที...

·        เราเลือกที่จำบางอย่าง และลืมบางอย่างเสมอ อะไรอยู่ภายใต้การตัดสินใจเลือกที่จะจำ ของเรา..... จิตใต้สำนึก ที่บันทึก ปม...ว่า เราไม่เป็นที่รัก ไม่ดี ไม่เก่ง เพราะมีใครบางคนเคยบอกเราเพียงครั้งเดียว ส่งผลให้ชีวิตและพฤติกรรมของคนๆ นั้น เลือกที่จำสิ่งที่ผ่านเข้ามาในชีวิต ตรงตามความเชื่อที่บันทึกไว้ จำแต่สิ่งที่เป็นภาพลบ ล้มเหลว เรื่องเสียใจ เปิดตามองเห็นโลกใหม่... คือก้าวไปในโลกใบเดิม แต่มีสายตาในมุมใหม่... อนุญาตจิตใต้สำนึกตัวเองให้บันทึกความสุข จากเสียงหัวเราะของคนที่เดินผ่าน รอยยิ้มของคนรอบตัว มีความสุขมากมายที่เราเดินผ่าน ....สร้างความทรงจำใหม่ในชีวิต

ออกไปมีชีวิต.... เราทุกคนต่างก็ปรารถนาความเป็นอิสระให้กับชีวิต อยากมีชีวิตที่เลือกเอง อยากมีอิสรภาพทางใจ อิสรภาพทางการเงิน ไม่ชอบให้ใครมาจำกัด กักขัง แต่แท้จริงแล้วสิ่งที่กักขังเราอย่างเหนียวแน่นที่สุดกลับเป็น ความเชื่อที่ฝังอยู่ในจิตใต้สำนึกของเราเอง บางคนขังตัวเองอยู่ในความเศร้าเพราะโกรธและลงโทษตัวเอง  ไม่อนุญาตให้ตัวเองมี ความสุข บางคนเชื่อว่าไม่เก่งไม่ดีพอ ก็ขังตัวเองอยู่ในที่ทำงานที่กดดันทุกวัน บางคนเชื่อว่าโลกนี้ขาดแคลนก็กักขังตัวเองอยู่กับหนี้สิน ไม่ยอมเดินออกมาปลดปล่อยตัวเองให้เป็นอิสระ